การนมัสการ กับความสัมพันธ์ผู้อื่น
มัทธิว 5.23-24 อิสยาห์ 1.11-20
คำนำ คำเทศนาเรื่องการนมัสการ 4 ครั้ง ที่ผ่านมานั้น จะเน้นความสัมพันธ์กับพระเจ้า แต่ในวันนี้ จะสรุปเรื่องการนมัสการของเรา ด้วยเรื่องความสัมพันธ์กับมนุษย์
การนมัสการไม่ใช่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าเท่านั้น แต่การนมัสการยังเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของเรากับพี่น้องของเรา กับ ผู้อื่น ด้วย
ทำไมการนมัสการพระเจ้าของเราจึงเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับผู้อื่น ?
1. เพราะเราเป็นในฐานะที่เป็นคริสเตียน เราเป็น ชุมชนแห่งความสัมพันธ์ ชุมชนแห่งความรัก และชุมชนแห่งการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
การเป็นคริสเตียน ไม่ใช่เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล แต่เป็นเรื่องความเป็นชุมชน เป็นชุมชนของผู้เชื่อวางใจในพระเจ้า ติดตาม เลียนแบบวิถีชีวิตของพระเยซูคริสต์ หรือที่เรียกว่า “สาวกของพระเยซูคริสต์”
เพราะฉะนั้น ความสัมพันธ์กับพี่น้อง ความสัมพันธ์กับผู้อื่น จึงเป็นเรื่องที่พระเจ้าให้ความสำคัญ พระเยซูให้ความสำคัญ พระคัมภีร์ให้ความสำคัญ
2. เพราะการนมัสการ เป็นการยกย่อง สรรเสริญ ยำเกรงและถวายเกียรติแด่พระเจ้า ยกให้พระเจ้าเป็นหนึ่ง ในชีวิตของเรา ยกให้น้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระเจ้าเป็นหนึ่งในชีวิตของเรา ไม่ได้ทำตามใจ ตามความตั้งใจของตนเอง แต่เรา(คนที่นมัสการพระเจ้า) ยอมทำตามน้ำพระทัยและพระประสงค์(ความตั้งใจ)ของพระเจ้า พระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีความสัมพันธ์กับพระองค์และมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วย
เพราะฉะนั้น เมื่อพระเจ้าพอพระทัยและมีพระประสงค์ให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อพี่น้องและเพื่อนบ้านของเรา นอกจากที่มีพระประสงค์ให้เรามีความสัมพันธ์กับพระองค์แล้วนั้น(รักพระเจ้าสิ้นสุดจิต สิ้นสุดใจ และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง) เราก็ต้องทำตามน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระเจ้า
การนมัสการของเรา จะเป็นการนมัสการที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้อย่างไร ? โดยการ...
1. คืนดี
หมอประเวศ วะสี ราษฎร์อาวุโส ได้กล่าวถึงสังคมไทย(สังคมโลกด้วย)ในปัจจุบัน ว่า “เป็นสังคมแตก” คือ แยกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ เป็นส่วนๆ ไม่ประสานติดกัน ซึ่งนำสังคมที่แตกนี้ไปสู่หายนะ นำไปสู่ความไม่เจริญ
เพราะฉะนั้น พระเยซู จึงตรัสว่า “ ...ให้ไปคืนดีกับพี่น้องก่อน นำเครื่องบูชามาถวาย(มา(มานมัสการ) พระเยซูให้ความสำคัญ กับความสัมพันธ์ของคน มาก่อน การถวายเครื่องบูชา เพราะถ้าไม่เช่นนั้น การถวายเครื่องบูชาที่ไม่มีความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น มันก็เป็นเพียงแค่การทำตามพิธี ทำเป็นพิธี ไม่ได้เป็นชีวิตจิตวิญญาณ และความจริง ซึ่งไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า มันทำให้ พระเจ้า เอือม... พระเจ้าไม่ ปิติยินดี... พระเจ้าเกลียด..(เป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังแด่พระเจ้า)
การนมัสการแบบนี้ทำให้เป็นภาระที่พระเจ้าแบกเหน็ดเหนื่อย (ตรงข้ามกับ อิสยาห์ 40.29
“ ท่านไม่เคยรู้หรือ ท่านไม่เคยได้ยินหรือ พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าเนืองนิตย์ คือพระผู้สร้างสุดปลายแผ่นดินโลก พระองค์มิได้ทรงอ่อนเปลี้ยหรือเหน็ดเหนื่อย...”)
พระเยซูต้องการให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่น้องก่อนเพื่อการนมัสการของเราจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
2. ทำดี
ทำตัวเองให้ดี
-ชำระตัว /ทำตัวให้สะอาด
-เลิกทำชั่ว /ฝึกทำดี
ทำในสิ่งดีๆ ต่อผู้อื่น
-มีความยุติธรรม
-บรรเทาผู้ถูกบีบบังคับ
-ป้องกันให้ลูกกำพร้า
-ต่อสู้เพื่อหญิงม่าย
ถ้านมัสการอย่างนี้ คือ อย่างมีสัมพันธ์กับผู้อื่น จะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ?
พระเจ้าจะเปลี่ยนแปลง ชีวิต จากหลังมือ เป็นหน้ามือ เปลี่ยนจากชั่วไปดี (ทำให้เราเป็น “คนดี”)
พระเจ้าเจ้าจะอวยพร ให้ชีวิตเกิดผลดี (ทำให้เรา”เกิดผลดี”)
อธิษฐาน...