อิสยาห์ 6.1-8
ทำไมเราต้องตั้งความคาดหวังในการนมัสการพระเจ้า ?
1. การนมัสการพระเจ้าเป็นเหมือนหัวใจของชีวิตของคริสเตียนหรือคริสตจักร พระเจ้าเลือกและเรียกเราทั้งหลายมาเพื่อให้นมัสการพระเจ้า พระองค์สร้างเราเพื่อให้เรานมัสการพระองค์ และพระเจ้าก็ทรงใช้เราให้ออกไปประกาศนำคนเข้ามาเพื่อนมัสการพระองค์ ฉะนั้น การนมัสการพระเจ้าจึงเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตคริสเตียนทุกคน
2. การนมัสการเป็นพระประสงค์หลักของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของประชากรของพระองค์ ในพระบัญญัติ 10 ประการ ได้บอกถึงการที่พระเจ้าพอพระทัยสำหรับคนที่นมัสการพระองค์ และพระองค์ทรงอวยพระพรคนที่นมัสการพระองค์ แต่พระเจ้าจะทรงไม่พอพระทัยสำหรับคนที่ไม่ได้นมัสการพระองค์แต่กลับไปนมัสการสิ่งอื่นแทนการนมัสการพระองค์
3. การมานมัสการพระเจ้าของแต่ละคนจึงเป็นเรื่องสำคัญและเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า ถึงแม้ว่าคนที่มาโบสถ์หรือมานมัสการพระเจ้าอาจมีความคาดหวังหรือเป้าหมายแตกต่างกันไป เช่น มาเพื่อทำหน้าที่ของการเป็นคริสเตียนที่ดีที่ควรทำ(ก็ควรทำ) มาเพื่อพบปะสามัคคีธรรมกับเพื่อน ญาติพี่น้อง(ก็ควรทำ) มาเพื่อฟังเทศน์ ฟังพระวจนะ(ก็ควรทำ) มาเพื่อได้รับคำหนุนใจ ได้รับกำลังใจ การชูใจ (ก็ควรทำ)มาเพื่อเรียนรู้เรื่องของพระเจ้า(ก็ควรทำ) เป้าหมายเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราควรคาดหวังจะได้รับหรืออยากให้เกิดขึ้นเมื่อเรามานมัสการพระเจ้า ด้วยเช่นกัน แต่เราต้องมีความคาดหวังสิ่งสำคัญมากกว่านั้นในการนมัสการพระเจ้า
เราตั้งความคาดหวังในการนมัสการพระเจ้าอย่างไรบ้าง ?
จากพระธรรมอิสยาห์ 6.1-8 ให้เราตั้งคาดหวังสำคัญ 3 ประการ ที่ควรเกิดขึ้นในการนมัสการพระเจ้าของเรา ทั้งหลาย เมื่อเรามาโบสถ์ มานมัสการพระเจ้า ความคาดหวัง 3 ประการนั้นคือ....
1. เราจะได้พบความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
อิสยาห์ได้พบความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในการนมัสการพระเจ้า เสราฟิม (ทูตสวรรค์) ในพระวิหาร ที่ใช้สองปีกปิดบังหน้า เป็นภาพการแสดงความเคารพ ยำเกรง นอบน้อมต่อพระเจ้า เพราะรู้ว่าพระเจ้านั้น ยิ่งใหญ่ น่ายำเกรง จนไม่กล้าแม้แต่จะมองพระพักตร์พระองค์ จึงเอาปีกปิดบังหน้าไว้
ถ้าเราจะนมัสการพระเจ้าให้สมกับความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เราจะต้องนมัสการพระเจ้าด้วยท่าที ด้วยใจที่ยำเกรง ยกย่อง เทิดทูน ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ทั้งชีวิตจิตใจของเรา ทูตสวรรค์นั้นร้องว่า “บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าจอมโยธา แผ่นดินโลกเต็มด้วยพระสิริของพระองค์” เป็นเสียงแห่งการยกย่องสรรเสริญพระเจ้า การยกย่องสรรเสริญเป็นหัวใจสำคัญในการนมัสการพระเจ้า
ดังนั้น เมื่อเรานมัสการพระเจ้า เราต้องกระทำทุกสิ่งด้วยท่าทีการยกย่องสรรเสริญพระเจ้า ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เมื่อร้องเพลงก็ร้องออกมาจากใจถวายแด่พระเจ้า อธิษฐานก็อธิษฐานด้วยใจที่สรรเสริญ ขอบพระคุณ พระเจ้า ถวายทรัพย์ก็ถวายด้วยใจที่สรรเสริญ ยกย่องเทิดทูนและขอบพระคุณพระเจ้า จงทำ ทุกสิ่งด้วยท่าทีแห่งการยกย่องสรรเสริญ พระเจ้า
2 เราจะได้พ้นจากความผิดบาป
เมื่ออิสยาห์ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ได้ยินเสียงที่ทูตสวรรค์ยกย่องสรรเสริญพระเจ้าแล้ว ทำให้ อิสยาห์ต้องสารภาพบาปของตัวเองออกมา ถ้าเราสังเกตคำสารภาพบาปของอิสยาห์เราจะพบว่าเป็นคำสารภาพที่เต็มไปด้วยความถ่อมใจจริงๆ “ วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาดและข้าพเจ้าอยู่ในหมู่คนที่ริมฝีปากไม่สะอาด เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์คือพระเจ้าจอมโยธา” คำสารภาพนี้น่าจะเป็นคำสารภาพของคนที่จิตวิญญาณตกต่ำ หรือคนที่หลงหายไปจากพระเจ้า หรือคนที่ทำผิดบาปร้ายแรง มากกว่าที่จะเป็นคำสารภาพของผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่อย่างอิสยาห์ แต่อิสยาห์ได้สารภาพต่อพระเจ้าด้วยใจถ่อม ยอมจำนน
สาเหตุที่อิสยาห์ได้สารภาพด้วยใจถ่อมอย่างนี้ เพราะว่าท่านได้เห็นพระเจ้าได้เห็นความยิ่งใหญ่ของ พระเจ้า “ข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับ ณ พระที่นั่งสูงและเทิดทูนขึ้นและชายฉลองของพระองค์เต็มพระวิหาร” “...เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์คือพระเจ้าจอมโยธา”
อิสยาห์ได้เห็นความบริสุทธิ์ เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ทำให้ท่านได้มองเห็นตัวเองอย่างชัดเจน ถ้าเราพบพระเจ้าในการนมัสการ เราก็จะมองเห็นตัวเองอย่างชัดเจนและอย่างแท้จริง หลายครั้งที่เรานมัสการพระเจ้าแล้วไม่ได้มองเห็นพระเจ้า ไม่ได้พบพระเจ้า ทำให้เรามองเห็นแต่ตัวเอง ทำให้เราขาดความถ่อมใจ ขาดความยำเกรง พระเจ้า พระเจ้าจึงอวยพระพรชีวิตของเราไม่ได้ ถ้าเรามองเห็นพระเจ้าเหมือนที่อิสยาห์ได้มองเห็นพระเจ้า พระพรของพระเจ้าก็จะหลั่งไหลมาสู่ชีวิตของเราและทำให้เรามองเห็นอะไรๆอีกหลายอย่างในชีวิตของเราชัดเจนขึ้นและเราก็จะถ่อมตัวลงแบบอิสยาห์และพูดว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาด” และเมื่อมีการถ่อมตัวถ่อมใจ สารภาพกับพระเจ้าการชำระให้บริสุทธิ์ก็จะเกิดขึ้น ทูตสวรรค์ได้นำเอาถ่านเพลิงจากแท่นบูชา มาถูกต้องปากของอิสยาห์ “ ดูเถิด สิ่งนี้ได้ถูกต้องริมฝีปากของเจ้าแล้ว กรรมชั่วของเจ้าก็ถูกยกเสีย และเจ้าก็จะรับการยกมลทินบาป” สิ่งนี้จะต้องเป็นประสบการณ์ของเราเมื่อเราเข้ามาเฝ้าพระเจ้าด้วยความถ่อมใจทุกวันอาทิตย์ ทุกการนมัสการ พระเจ้าก็จะทรงชำระเรา สร้างจิตใจภายในให้กับเรา เราจะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ฝ่ายวิญญาณ เป็นการชำระเอาสารพิษฝ่ายจิตวิญญาณของเรา(ความบาป) ทำให้จิตวิญญาณ ไม่เจ็บป่วยแต่มีสุขภาพจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง แต่ถ้าเราเข้ามานมัสการพระเจ้าแล้วไม่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์จากพระเจ้า พอกลับไป เราก็เหมือนไม่ได้รับอะไรเลย เพราะไม่ได้รับการชำระล้างสารพิษฝ่ายวิญญาณ (อาจทุกข์มากกว่าเดิมเพราะรับสารพิษเข้าไปอีก)
ดังนั้น ทุกอาทิตย์ที่เรามานมัสการ หรือทุกการนมัสการพระเจ้า ให้เราคาดหวังการชำระให้บริสุทธิ์จาก พระเจ้า ด้วยการสารภาพด้วยใจถ่อมและยอมจำนนต่อพระเจ้า บาปเหมือนกาฝาก เหมือนมะเร็งร้าย ฝ่ายวิญญาณที่เกาะกินทำลายชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา เราต้องเอาออก อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจอันตรายถึงชีวิต
3 เราจะได้พร้อมในการรับใช้พระเจ้า
เมื่ออิสยาห์นมัสการพระเจ้า อิสยาห์ได้ยินเสียงของพระเจ้าว่า “เราจะใช้ผู้ใดไปและผู้ใดจะไปแทนเรา” เมื่อเรามานมัสการพระเจ้า พระเจ้าถามเราทุกอาทิตย์ว่า“เราจะใช้ผู้ใดไปและผู้ใดจะไปแทนเรา” พี่น้องทั้งหลายพระเจ้าต้องการใช้ชีวิตของเราให้การนำคนเข้ามาเพื่อนมัสการพระองค์ ให้คนกลับมาหาพระเจ้า
เมื่ออิสยาห์ได้ยินเสียงการทรงเรียกจากพระเจ้าท่านได้ตอบสนองทันทีว่า “ ข้าพระองค์อยู่ที่นี่พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด ในแต่ละอาทิตย์พระเจ้าทรงเรียกเราให้รับใช้พระองค์ เราจะตอบสนองพระองค์ด้วยการติดปีกคู่ที่ 3 ใช้บิน เป็นปีกแห่งการรับใช้ ไม่ใช่ปีกบินหนี แต่เป็นปีกแห่งการปรนนิบัติ รับใช้พระเจ้า
พี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าต้องการใช้เราให้ไปบอกกับคนทั้งหลายให้หันกลับมานมัสการพระเจ้า ไปบอกกับคนที่หลงหาย เหมือนคนอิสราเอลที่หลงไปจากพระเจ้าให้หันกลับมานมัสการพระเจ้า เพื่อที่พระเจ้าจะทรงอวยพรชีวิตของทุกๆคนได้ ให้เราทุกคนไปบอกคนในบ้านเรา ครอบครัวเรา ที่ทำงาน ชุมชนของเรา ฯลฯ ให้มานมัสการพระเจ้าด้วยกัน อาเมน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น