วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ชุมชนคนมีชีวิตเต็มร้อย

ชุมชนคนมีชีวิตเต็มร้อย
กิจการ 2.37-47 
      - ในสังคมปัจจุบันมี ชุมชน มากมาย แต่ชุมชนหนึ่งที่สำคัญ คือ ชุมชนคนของพระเจ้า เป็นชุมชนที่พระเยซูตั้งขึ้น เมื่อกว่า 2000ปีที่ผ่านมา เป็นชุมชนเข้มแข็ง เปลี่ยนแปลงโลก คือ ชุมชนคริสตจักร หรือ ชุมชนผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์                              
      - ​หลังจากสาวกประมาณ 120 คน รับการเติมเต็มด้วยพระวิญญาณในวันเพนเทคอสต์  ต่อเนื่องจากวันนั้นมีคนยิวจากทั่วโลก ได้เดินทางมาร่วมในเทศกาลสำคัญของชาวยิว และในวันนั้นมีคนประมาณ 3,000 คน ได้กลับใจใหม่ เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ เปลี่ยนทางการดำเนินชีวิต
      - เมื่อพวกเขาได้ฟังคำพยานของอัครทูตเปโตรแล้ว  พวกเขารู้สึกแปลบปลาบใจ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทำงานผ่านทางคำพยานของเปโตร ไปถึงชีวิตของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้ฟังแล้วจึงสัมผัสได้ถึงฤทธิ์เดชของพระเจ้า ในชีวิตของพวกเขา  พวกเขาจึงถาม เปโตรว่า “ ...เราจะทำอย่างไรดี(ที่มีชีวิตเต็มร้อยในพระเจ้าได้)"
      จากพระวจนะของพระเจ้า พระธรรมกิจการฯ 2.37-47  ได้บอกถึงสิ่งที่เราจะต้องกระทำตาม อย่างน้อย 3  ประการที่จะทำให้เราเป็น "ชุมชนคนที่มีชีวิตเต็มร้อย"

ประการที่ 1  เราต้องเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ( ข้อ 38)

            ​การกลับใจใหม่และการรับบัพติสมาในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ เป็นกระบวนการการรับพระวิญญาณบริสุทธิ์  
การกลับใจใหม่เป็นการหันหลังกลับจากวิถีชีวิตเก่า ความเชื่อเก่า การดำเนินชีวิตแบบเก่าที่ไม่ได้อยู่ในทางของพระเจ้า  การดำเนินชีวิตที่พึ่งแต่กำลังตัวเอง สติปัญญาตัวเอง  เราต้องกลับใจใหม่และนำชีวิตของเราเข้าไป อยู่ในพระเยซูคริสต์เจ้าอย่างแท้จริง  
           การบัพติสมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ คือการที่เรามีชีวิตอยู่ในพระองค์ และพระเยซูคริสต์ มีชีวิตอยู่ในเราอย่างแท้จริง  ชีวิตของเราจะถูกสร้างใหม่ เปลี่ยนแปลงใหม่ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ประทับสถิตอยู่ในชีวิตของเรา เมื่อเราได้กลับใจและรับบัพติสมาในพระเยซูคริสต์ ให้พระเยซูคริสต์เข้ามาอยู่ในชีวิตของเรา และเรามีชีวิตในพระองค์อย่างแท้จริง

ประการที่ 2  เราต้องรับการเสริมสร้างชีวิตให้เติบโตขึ้น (ข้อ 42)

              เราต้องรับการเสริมสร้างชีวิตให้เจริญเติบโตขึ้นด้วยพระวจนะของพระเจ้า (ขะมักเขม้นในการฟังคำสอนจากอัครทูต) ชีวิตของคริสเตียน จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในพระเยซูคริสต์อย่างชัดเจน ชีวิตเราจะต้องมีความปรารถนาที่จะรู้จัก และมีประสบการณ์ชีวิตกับพระเยซูคริสต์ ให้มากขึ้น ทุกวันๆ พระวจนะหรือพระคัมภีร์ เป็นสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยสำแดงพระองค์ให้เรารู้จักพระองค์ เพื่อชีวิตของเราจะได้เจริญเติบโตขึ้น ในพระองค์ มากขึ้นทุกวันๆ
             เราต้องรับการเสริมสร้างชีวิตให้เจริญเติบโตขึ้นด้วยการร่วมสามัคคีธรรม กับ ผู้เชื่อด้วยกัน เพื่อพัฒนาชีวิตของซึ่งกันและกัน  คริสเตียนต้องไม่ขาดการสามัคคีธรรม    ร่วมกับพี่น้อง คริสเตียนด้วยกัน  ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสตรี อนุชน กลุ่มอธิษฐาน กลุ่มตามบ้าน  เพราะกลุ่มสามัคคีธรรมต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยพัฒนาชีวิตของเราให้เจริญเติบโตขึ้นในพระเจ้า
             เราต้องรับการเสริมสร้างด้วยการนมัสการพระเจ้า การนมัสการเป็นการที่เราถ่อมชีวิตจิตใจของเราลง แล้วยกพระเจ้าขึ้นสูงสุดในชีวิตของเรา  เมื่อชีวิตของเรายกพรเจ้าขึ้น พระเจ้าก็จะทรงยกเราขึ้นเช่นกัน  แต่ถ้าชีวิตของเราไม่ได้ถ่อมลงและยกพระเจ้าขึ้น ชีวิตของเราในพระเจ้าก็จะตกต่ำลง  การดำเนินชีวิตที่ยกย่อง ให้เกียรติแด่พระเจ้า ถือเป็นการนมัสการพระเจ้าด้วยเช่นกัน
             เราต้องรับการเสริมสร้างด้วยอธิษฐาน  การอธิษฐานเป็นการสำแดงความเชื่อที่เรามีต่อพระเจ้าออกมา เป็นการที่เรามอบชีวิตและพึ่งพิงอยู่ในพระองค์ การอธิษฐานเป็นการสนทนากับพระเจ้าแสดงถึงความสัมพันธ์สนิทที่เรามีต่อพระเจ้า  เมื่อชีวิตของเราติดสนิทกับพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน ชีวิตของเราก็เจริญเติบโต เกิดผลในพระเจ้า

ประการที่ 3  เราต้องรักและรับใช้ซึ่งกันและกันในสังคม ชุมชนนี้   ( ข้อ 44-46)

              ตั้งแต่วันแรกที่เรารับเชื่อพระเจ้า เป็นวันที่เราได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าให้เราเป็นเครื่องมือของพระเจ้า ในการที่จะทำให้พระประสงค์และน้ำพระทัยของพระเจ้าในการขยายแผ่นดิน การครอบครองของพระเจ้าให้สำเร็จ ในท่ามกลางสังคม ชุมชนที่เราอาศัยอยู่ และจนสุดปลายแผ่นดินโลก
              ชีวิตคริสเตียนต้องรักซึ่งกันและรับใช้ซึ่งกันและกัน เพราะเราเป็นอวัยวะในร่างกายเดียวกัน คือเป็นพระวรกายของพระเยซูคริสต์  พระเจ้าทรงให้เราเป็นอวัยวะที่ต่างกันเพื่อจะได้รับใช้ช่วยเหลือเจือจุนซึ่งกันและกัน
ชีวิตคริสเตียนต้องรับใช้เพื่อนบ้าน คนที่อยู่ในชุมชน สังคม  จงรักเพื่อนบ้าน เหมือนรักตนเอง เป็นพระมหาบัญญัติ ที่พระเจ้าต้องการให้สำเร็จในชีวิตของเราทั้งหลายทุกคน ที่ได้รับการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า

             ตัวอย่าง. รถโฆษณาคันหนึ่งเขียนว่า "การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การให้อภัย" ขออภัยที่เสียงโฆษณาดังรบกวนท่าน

สรุป.  เมื่อชีวิตคริสเตียนที่ดีได้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของคนทั้งปวง  พวกเขาก็จะสรรเสริญพระเจ้า และมีความประทับใจ พระเจ้าก็จะทรงทำงานของพระองค์ในชีวิตจิตใจของคนเหล่านั้น และเขาก็จะได้รับความรอดจาก    พระเจ้า( ข้อ 47)
​        พี่น้องทั้งหลาย  พระเจ้าทรงมีพระราชประสงค์ให้ชีวิตของเราทุกได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์  รับการเสริมสร้างชีวิตให้เติบโตเข้มแข็ง เพื่อที่เราจะรักและรับใช้ซึ่งกันและกัน รับใช้เพื่อนบ้าน ประกาศเป็นพยานข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ แล้วเราจะเป็น "ชุมชนคนที่มีชีวิตเต็มร้อย " ในพระเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น